วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559

ที่ท่องเที่ยวไทย "อุทยานราชภักดิ์ประจวบคีรีขันธ์"

อุทยานราชภักดิ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


          สวัสดีครับผม...อาทิตย์ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเที่ยวที่อุทยานราชภักดิ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็เลยเอารูปและข้อมูลมาลงเพื่อให้ทุกคนได้รับความรู้เกี่ยวกับอุทยานราชภักดิ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาจจะไม่ละเอียดมากแต่ก็เป็นข้อมูลสำหรับคนที่ชอบเที่ยวได้นะครับพี่น้อง...เอ้าเข้าเรื่องกันเลยนะครับตั้งใจอ่านนะครับ
          อุทยานราชภักดิ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีการสำคัญของกองทัพบกและรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ และสุดท้ายเพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเรียนรู้ประวัติศาสตร์
          โดยพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม จำนวนทั้งสิ้น 7 พระองค์ โดยพิจารณาเลือกพระมหากษัตริย์แต่ละยุคสมัย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งพระนามแต่ละพระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยรูปแบบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์จะจัดสร้างในลักษณะอิริยาบถทรงยืน ความสูงเฉลี่ยไม่เกิน 13.9 เมตร หล่อด้วยโลหะสำริดนอก มองดูสง่าทุกพระองค์เลยครับ
          
          พระองค์แรกนะครับที่เราต้องรู้จักคือ "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ผู้แกร่งกล้าสร้างชาติมารุ่งเรืองเมืองอร่าม สร้างอักษรปรากฎดูงดงาม ทั่วเขตคามต่างศรัทธาสาธุการ เสด็จขั้นครองราชาสมบัติเมื่อ  พ.ศ. 1822 ถึง 1841 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของไทยที่ได้รับการยกย่องเป็น "มหาราช" ด้วยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ อันทรงคุณประโยช์แก่แผ่นดิน ทรงรวบรวมอาณาจักรสยาม จนเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง ทั้งยังได้ทรงประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้น ทำให้สยามได้สะสมความรู้ด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิชาการต่างๆ สืบทอดกันมากว่าเจ็ดร้อยปี

          พระองค์ที่สองคือ"สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ผู้องอาจเกรียงไกรเกินไขขานกอบกู้ชาติกลับเป็นไทยในก่อนกาลสร้างตำนาน"ยุทธหัตถั" ศรีชาติไทย เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.2098 พระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพและได้ทรงแผ่ขยายอำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล เสด็จขึ้นครองราชเมื่อ วันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2133 ศิริรวมการครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 รวมพระชนมายุ 50 พรรษา

          พระองค์ที่สามคือ"สมเด็จพระนารายณ์มหาราช"ทรงสร้างชาติตามแนวทางอย่างยิ่งใหญ่ เปิดการทูตการค้าพาก้าวไกล ปักธงชัยเปิดบ้านสานสัมพันธ์ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ.2175 เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2199  ขณะมีพระชนมายุ 25 พรรษา พระองค์ทรงใช้หลักการทูตในการรักษาเอกราชของสยามประเทศโดยการเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้าหลุยที่ 14 พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2231 ครองราชสมบัติเป็นเวลา 32 ปี รวมพระชนมายุ 56 พรรษา

          พระองค์ที่สี่คือ"พระเจ้าตากสินมหาราช"กอบกู้ชาติสร้างพาราประชาสันต์ กรุงธนบุรี ศรีประจันต์เป็นขอบขัณท์เมืองหลวงปวงประชา เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2277 เสด็จขึ้นครองราชเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2310 พระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทย จากการเสียกรุงครั้งที่ 2 และได้รวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น จากการแบ่งเป็นก๊กเหล่าต่างๆ สถาปนา "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร" เป็นราชธานี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 ครองราชสมบัติ 15 ปี รวมพระชนมายุ 48 พรรษา

          พระองค์ที่ห้าคือ"พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" เก่งองอาจยอดทหารผู้ชาญกล้า สร้างกรุงเทพยิ่งใหญ่ในพารา จิตศรัทธาพุทธศาสน์ฉลาดธรรม เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2279 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขึ้นครองราชย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ฝั่งพระนคร สถาปนากรุงเทพมหานครฯ เป็นราชธานี และโปรดเกล้าให้ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวัฒนธรรมเช่นเดียวกับกรุงศรีอยุธยาทุกประการ สวรรคตเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2352 ครองราชสมบัติ 27 ปี รวมพระชนมายุ 73 พรรษา

          พระองค์ที่หกคือ"พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ทรงรู้ทั่วเป็นปราชญ์ฉลาดล้ำ ดาราศาสตร์ รู้แจ้งแสดงนำ แถลงคำทายทักประจักษ์จริง พระราชโอรสพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2347 เมื่อ พ.ศ.2411 พระองค์ทรงนิวัฒน์สยามประเทศให้มีความทันสมัยโดยทรงนำงานด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์มาผนวกรวมกับอารยธรรมสยาม จนทำให้สยามประเทศมีความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมอารยประเทศ อาทิ เช่น ทรงคำนวณว่าจะปรากฎสุริยุปราคาเต็มดวงได้ในประเทศสยาม ณ ตำบลว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซื่งเมื่อถึงเวลาที่เวลาที่พระองค์ทรงคำนวณจึงเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงดังที่ทรงได้คำนวณไว้ เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งภานุมาศจำรูญ ภายในพระบรมมหาราชวัง รวมพระชนมายุ 64 พรรษา

          พระองค์สุดท้ายนะครับคือ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช" ทรงเลิกทาสสร้างสุขคืนทุกสิ่ง สร้างประเทศทั่วเขตคามตามอ้างอิง มิเคยทิ้งทวยราษฎร์ชนชาติไทย พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เสวยราชสมบัติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง(พ.ศ.2411) ทรงมีพระราชกรณียกิจที่ทำให้สยามประเทศมีความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมอาณาประเทศทรงตัดสินพระราชหฤทัยเลิกทาสคืนอิสรภาพของมวลประชาสู่ความเป็นไท ทรงจัดตั้งระบบราชการที่มีความทันสมัยแบบตะวันตก ทรงพัฒนาการทหารให้มีความเจริญรุ่งเรือง สืบต่อมาจนถึงปัจจุบันกาลและพระราชกรณียกิจอีกมากล้นเกินคณานับ กระทั่งผู้คนมักออกพระนาม "พระปิยมหาราช" แปลว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รัก รวมสิริดำรงราชสมบัติ 42 ปี 22 วัน(23 ตุลาคม พ.ศ.2453) รวมพระชนมายุ 58 พรรษา

นี่แหละครับบริเวณด้านหน้าจะเป็นลานกว้างมากๆ มีที่จอดรถสะดวกสบาย ตอนนี้เป็นช่วงสายๆ อากาสวันนั้นไม่ค่อยร้อนครับมีลมพัดเย็นสบาย

บริเวณนี้จะเป็นที่รับพวงมาลัยและบริจาคเงินตามศรัทธาและก็กล่าวคำบูชาพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์เลยครับ จะขอพรหรืออธิษฐานการใดๆ ก็แล้วแต่คุณเลยครับ
 เมื่อเรากล่าวคำบูชาท่านครบทุกพระองค์และอธิษฐานเรียบร้อยแล้วก็นำพวงมาลัยมาวางบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ครับ
 นี่จะเป็นบริเวณรอบๆพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์สวยงามมากครับ อีกสักหน่อยก็คงร่มรื่นมีที่พักผ่อนหย่อนใจ
 และนี่ก็เป็นกฎควรอ่านก่อนเข้าชมอุทยานด้วนนะครับว่าควรแต่งกายอย่างไรให้เหมาะสม
ถ้าสนใจก็ลองไปเที่ยวดูนะครับ

"ที่ท่องเที่ยวไทย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ถ้าชอบกด Like ใช่ กด Share